เนื้อหาโดยสังเขป
คอร์สปูพื้นฐานรวม Very Easy English เหมาะกับนักเรียนที่ต้องการเริ่มต้นเพื่อปูพื้นฐานภาษาให้ครบ ทั้ง คำศัพท์ ไวยากรณ์ การฝึกเขียน ฝึกฟัง การสนทนา และประโยคที่คนไทยมักใช้ผิด ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงค่ะ ถ้าเรามีพื้นฐานน้อย คอร์สนี้จะช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมของภาษาอังกฤษว่าจะต้องเรียนอะไรบ้าง และหากเรียนจบแล้ว ต้องไปเรียนอะไรต่อค่ะ
สารบัญ
- Lesson 1: โครงสร้างประโยค
- Lesson 2: I am กับ I am not ใช้อย่างไร
- Lesson 3: I + กริยา / I don’t + กริยา
- Lesson 4: I + am + กริยาเติม –ing
- Lesson 5: I + อดีต ใช้ยังไง
- Lesson 6: I have / haven’t + กริยาช่อง 3 ไม่ได้แปลว่า “ฉันมี …….”
- Lesson 7: แล้ว I have been + กริยาเติม –ing ล่ะ? ฝรั่งใช้โครงสร้างนี้พูดอย่างไร
- Lesson 8: I will VS I am going to … ใช้อย่างไร
- Lesson 9: I + Modal verb คืออะไร ทำไมสำคัญจัง
- Lesson 10: Are you ………? ใช้ถามฝรั่งยังไง
- Lesson 11: Do you ….……? ใช้ถามอะไร
- Lesson 12: Have you ……? ใช้ถามอะไร
- Lesson 13: Modal verb + you ……? ใช้ถามอะไร
- Lesson 14: การถามคำถามโดยใช้ WH- Questions
- Lesson 15: การแต่งประโยคที่มีกรรมสองตำแหน่ง
- Lesson 16: การแต่งประโยคที่มีกรรมสองตำแหน่ง (ภาค 2)
- Lesson 17: คำถามที่ไม่สมบูรณ์
- Lesson 18: A VS The เรื่อง งงๆ ของเราคนไทย
- Lesson 19: This – That / These – Those อย่าใช้ปนกัน
- Lesson 20: There is / There are เรื่องพื้นฐานในภาษาอังกฤษ
- Lesson 21: Have ที่ไม่ได้แปลว่า “มี”
- Lesson 22: คำนามที่มีมากกว่า 1 แต่ฝรั่งดันไม่เติม S!
- Lesson 23: เมื่อปลาหลายตัวก็ใช้ Many fish
- Lesson 24: “รูปประธานถูกกระทำ” ที่ฝรั่งใช้เป็นเรื่องปกติ
- Lesson 25: ‘Get + กริยาช่อง 3’ มันมีความหมายด้วยเหรอ?
- Lesson 26: “เขาทำให้ฉันร้องไห้” ภาษาอังกฤษต้องพูดว่าอย่างไร
- Lesson 27: ‘I found him boring’ ไม่ได้แปลว่า “ฉันค้นหาเข้าน่าเบื่อ”
- Lesson 28: “การเปรียบเทียบ” ภาษาอังกฤษเขาใช้โครงสร้างอะไร
- Lesson 29: “Interested VS Interesting” แปลเหมือนกัน แต่ใช้ไม่เหมือนกัน!
- Lesson 30: Used to / Get used to / กริยาช่อง 3 ใช้ต่างกันอย่างไร
- Lesson 31: Too ที่ไม่ได้แปลว่า “เหมือนกัน”
- Lesson 32: Hope ใช้อย่างไร
- Lesson 33: Stop smoking – Stop to smoke มีความหมายต่างกัน!
- Lesson 34: I like you. VS I’m like you. ความหมายต่างกัน!
- Lesson 35: Good – Well แปลว่า “ดี” เหมือนกัน แต่ใช้ต่างกัน
- Lesson 36: “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ” อย่างไรได้บ้าง
- Lesson 37: กางเกง 1 ตัว อย่าใช้ One trouser
- Lesson 38: Listen คู่กับ to และ Wait ต้องคู่กับ for (Prepositional Verbs)
- Lesson 39: Person – Persons – People ต่างกันอย่างไร
- Lesson 40: Let กับ Let’s ต่างกันอย่างไร
- Lesson 41: Fun กับ Funny ความหมายไม่เหมือนกัน
- Lesson 42: ‘Live’ ที่ไม่ได้แปลว่า “อาศัยอยู่”
- Lesson 43: “ไปเดินเล่น” อย่าใช้ Go walk play!
- Lesson 44: Make กับ Do แปลว่า “ทำ” เหมือนกัน แต่เอาไปใช้ต่างกัน
- Lesson 45: Believe – Believe in Trust – Trust in ความหมายต่างกัน!
- Lesson 46: Afraid / Scared / Frightened / Fear แปลว่า “กลัว” เหมือนกัน แต่ใช้ต่างกัน
- Lesson 47: Time: every time, all the time, sometime, sometimes ใช้ยังไง
- Lesson 48: In prison VS In the prison ต่างกันนะ
- Lesson 49: Height – Hight, Weight – Weigh ต่างกันอย่างไร
- Lesson 50: Everyone, Someone, Anyone, No one
- Lesson 51: Sell Sale Sales ต่างกัน!
- Lesson 52: Ask / Ask to / Ask for ที่แปลไม่เหมือนกัน
- Lesson 53: Different – Indifferent / Confident – Confidential เติมคำเข้าไปแล้ว ความหมายกลับไม่เหมือนเดิม
- Lesson 54: Phrasal verbs กริยาวลีที่เราไม่เรียนไม่ได้
- Lesson 55: One ที่ไม่ได้แปลว่า “หนึ่ง”
- Lesson 56: Depend on / Up to สองคำนี้มักทำให้เรางง
- Lesson 57: เมื่อวาน / วันนี้ / เมื่อวานซืน ภาษาอังกฤษต้องพูดว่ายังไง
- Lesson 58: Talk to – Talk with / say / tell ใช้ต่างกันยังไง
- Lesson 59: Adjective + Preposition คืออะไร
- Lesson 60: Beautify – Beautiful / Comfort – Comfortable ต่างกันยังไง?
- Lesson 61: คำว่า “ใช้” ที่ไม่ได้มีแค่ “use” อย่างเดียว
- Lesson 62: In the way / On the way มันต่างกันสุดขั้วเลย
- Lesson 63: Tough / Though / Through 3 คำสุดงง ที่จะไม่น่างงอีกต่อไป!
- Lesson 64: -ed ending ออกเสียงอย่างไรได้บ้าง
- Lesson 65: Stress เรื่องที่ต้องเรียน
- Lesson 66: Want – Would like เลือกใช้ให้ถูกต้อง
- Lesson 67: ‘สบายดีไหม / สบายดี’ จะบอกฝรั่งอย่างไรได้บ้าง
- Lesson 68: What do you do? / What are you doing? 2 ประโยคสุดงง!
- Lesson 69: 10 ประโยคบอกว่า “ไม่เป็นไร”
- Lesson 70: I think / I thought สรุปแล้ว 2 ประโยคนี้ความหมายต่างกัน
- Lesson 71: I know / I knew เป็นการบอกว่า “ฉันรู้” ที่ความหมายไม่เหมือนกัน!
- Lesson 72: “ฉันแพ้…….” จะบอกฝรั่งงอย่างไร?
- Lesson 73: ‘Fit’ ที่ไม่ได้แปลว่า ‘คับ’
- Lesson 74: Stay calm หรือ Keep calm ไม่ได้แปลว่า “รักษาความสงบ”
- Lesson 75: Introduce yourself แนะนำตัวภาษาอังกฤษง่ายๆ ทำได้แน่นอน!
- Lesson 76: อวยพรเป็นภาษาอังกฤษอย่างไรให้คนฟังประทับใจ
- Lesson 77: ‘แสดงความเห็น’ ในภาษาอังกฤษยังไงดี
- Lesson 78: ขอร้องแบบสุภาพ
- Lesson 79: She is ‘รุ่นน้อง’ อย่าใช้ She is mt sister!
- Lesson 80: ใช้ go shopping ได้ แต่อย่าใช้ go to shopping
- Lesson 81: “ขับรถแซง” จะบอกฝรั่งยังไงดี
- Lesson 82: “เวอร์” ที่อย่าใช้คำว่า Ver! เด็ดขาด
- Lesson 83: “รู้สึกนอยด์” สรุปแล้วมันมาจากคำว่าอะไร
- Lesson 84: ‘ฉันเลี้ยงเอง’ จะบอกฝรั่งยังไงดี
- Lesson 85: “เล่นอินเตอร์เน็ต” อย่าใช้ Play Internet กับฝรั่ง
- Lesson 86: ‘เกรงใจจัง’ แต่ไม่รู้จะบอกฝรั่งยังไงดี
- Lesson 87: ‘เช็คบิลหน่อย’ อย่าใช้ Check bill, please.
- Lesson 88: ‘ฉันเข้าใจ’ จะบอกฝรั่งยังไงดี
- Lesson 89: “My bad.” ไม่ได้แปลว่า ฉันเลว!
- Lesson 90: ‘เป็นประจำเดือน’ จะบอกฝรั่งยังไงดี
- Lesson 91: Are you seeing someone? ไม่ได้แปลว่า “คุณกำลังเห็นใครไหม”
- Lesson 92: “I’m up / down.” ไม่ได้แปลว่า “ฉันขึ้น / ลง”
- Lesson 93: “I don’t but it.” ไม่ได้แปลว่า “ฉันไม่ซื้อมัน”
- Lesson 94: I’m working on it. / I’m on top of that. 2 สำนวนนี้ใช้อย่างไร
- Lesson 95: Do you have the time? เขาไม่ได้ถามว่า คุณมีเวลาไหม
- Lesson 96: “It’s same same.” เจ้าของภาษาไม่ได้พูดแบบนี้
- Lesson 97: กินยา อย่าใช้ ‘Eat medicine.’
- Lesson 98: อย่าใช้ Never mind! เพื่อบอกว่า “ไม่เป็นไร”
- Lesson 99: Come on! / How come! / No way! คำอุทานที่ฝรั่งใช้เป็นเรื่องปกติ
- Lesson 100: Anymore / No longer / At all : 3 คำเล็กๆ ที่สำคัญในการใช้ภาษาอังกฤษ
Reviews
There are no reviews yet.