เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังจำคำศัพท์ไม่ได้สักที นักเรียนเคยประสบปัญหาแบบนี้ไหมคะ
ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ครูหวานมีเทคนิคที่จะทำให้จำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นมาฝากกันค่า
การจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษไม่ได้ ถือเป็นอุปสรรคหนึ่งในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนเลยใช่ไหมคะ ถึงแม้ว่าบางครั้งจะจำคำศัพท์ได้แล้ว แต่พอถึงเวลาที่จะต้องนำไปใช้จริงกลับเลือกไม่ถูกซะงั้น
เอาล่ะค่ะ ลองมาทำตาม 7 เทคนิคนี้ของครูหวาน รับรองว่าจำคำศัพท์ไปได้ตลอดชีวิตแน่นอน! ลุยค่า!
1. ใช้ Flashcard ช่วยท่องจำ
การใช้ Flashcard หรือบัตรคำ ถือเป็นเทคนิคช่วยจำสุดคลาสสิกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และไม่ได้ใช้แค่ในวิชาภาษาอังกฤษเท่านั้นนะคะ เพราะวิธีนี้เป็นการใช้หลักการการทบทวนและทำซ้ำวันละนิด หรือที่เรียกกันว่า Spaced Repetition (Space = ช่วง/ช่อง Repetition = การทำซ้ำ) ที่ช่วยกระตุ้นให้สมองจำคำศัพท์ได้ยาวนานขึ้น นักเรียนสามารถทำได้ดังนี้ค่ะ
1. ตัดกระดาษแข็งให้ขนาดเท่า ๆ กัน ตามจำนวนคำศัพท์ที่นักเรียนต้องการท่อง
2. แปะคำศัพท์ทั้งที่จำได้แล้ว จำได้บ้างลืมบ้าง และที่ยังจำไม่ได้ลงกระดาษแข็ง
3. แปะความหมายของคำศัพท์ไว้ด้านหลังของบัตรคำแต่ละคำ
4. ใช้ท่องคำศัพท์แบบสุ่ม (Shuffle) โดยเรียงสลับกันไประหว่างคำศัพท์ 3 หมวด
5. ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง รับรองเราจะจดจำคำศัพท์ได้ยาวนานขึ้นแน่นอนค่า
2. แปะคำศัพท์ทั้งที่จำได้แล้ว จำได้บ้างลืมบ้าง และที่ยังจำไม่ได้ลงกระดาษแข็ง
3. แปะความหมายของคำศัพท์ไว้ด้านหลังของบัตรคำแต่ละคำ
4. ใช้ท่องคำศัพท์แบบสุ่ม (Shuffle) โดยเรียงสลับกันไประหว่างคำศัพท์ 3 หมวด
5. ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง รับรองเราจะจดจำคำศัพท์ได้ยาวนานขึ้นแน่นอนค่า
หรือถ้าหากต้องการสร้าง Flashcard ออนไลน์สามารถสร้างสำเร็จรูปบนเว็บไซต์ได้ด้วยนะคะ
2. ใช้คำศัพท์ที่เรียนรู้ใหม่ให้บ่อย แล้วจะค่อย ๆ ซึมซับไปเอง
การได้ใช้คำศัพท์ที่นักเรียนพึ่งได้เรียนรู้มาใหม่สด ๆ เลยทันที นอกจากจะทำให้สามารถจำหมายความของคำศัพท์ได้แล้ว เรายังเรียนรู้เพิ่มเติมได้อีกว่าคำนั้น ๆ มีความหมายเหมาะสมกับบริบทใดบ้าง การได้นำไปใช้จริงยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการทบทวนคำศัพท์กับผู้คนในสภาพแวดล้อมจริงด้วยค่ะ
3. สังเกตรูปแบบของคำ จะทำให้เราจำได้
หากนักเรียนสังเกตดี ๆ คำบางคำจะมีรูปแบบการสะกดคำหรือการออกคล้ายคลึงกันมากเลยค่ะ ดังนั้นเราสามารถจำคำศัพท์เป็น Set ได้เลยโดยแค่สังเกตจากรูปแบบของคำเหล่านั้น เช่น คำคุณศัพท์หรือ Adjective ใดที่เติม -ly แล้วจะเปลี่ยนหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์หรือ Adverb และจะแปลแทบจะเหมือนเดิมเลย เช่น
happy (มีความสุข) >> happily (อย่างมีความสุข)
lucky (โชคดี) >> luckily (อย่างโชคดี)
beautiful (สวยงาม) >> beautifully (อย่างสวยงาม)
comfortable (สบาย) >> comfortably (อย่างสะดวกสบาย)
lucky (โชคดี) >> luckily (อย่างโชคดี)
beautiful (สวยงาม) >> beautifully (อย่างสวยงาม)
comfortable (สบาย) >> comfortably (อย่างสะดวกสบาย)
เมื่อเราเรียนรู้รูปแบบของคำแล้ว เราก็จะเรียนรู้ข้อยกเว้นตามไปด้วย นั่นคือ มีคำบางคำที่
ลงท้ายด้วย -ly แต่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็น Adverb ก็มีนะคะ เช่น
friendly เป็น Adjective = เป็นมิตร
lively เป็น Adjective = มีชีวิตชีวา
lively เป็น Adjective = มีชีวิตชีวา
นอกจากนั้นยังได้เรียนรู้อีกค่ะว่า คำบางคำก็มีรูปแบบคำ Adjective และ Adverb เหมือนกัน เช่น
fast เป็น Adjective = รวดเร็ว เป็น Adverb = อย่างรวดเร็ว
hard เป็น Adjective = หนักหนา เป็น Adverb = อย่างหนักหนา
hard เป็น Adjective = หนักหนา เป็น Adverb = อย่างหนักหนา
4. ใช้ความเชื่อมโยงกับสิ่งที่เราชอบ เราจะได้เรียนรู้คำศัพท์ได้นานขึ้น
นักเรียนเคยมีเพื่อนบางคน หรือคนใกล้ตัวบางคนที่เก่งภาษาอังกฤษมาก ๆ ไหมคะ แล้วเวลาเราถามเทคนิคการจำคำศัพท์กับเขา เราจะได้ฟังเทคนิคที่น่าทึ่งมากมาย เช่น เล่นเกมออนไลน์แล้วเจอคำศัพท์นี้บ่อย ๆ ฟังเพลงเยอะเลยพอเดาได้ว่าคำนี้แปลว่าอะไร หรือดูคลิปตลก ๆ ของฝรั่งทุกวันก่อนนอนเลยเคยได้ยินคำศัพท์มาบ้าง ฉะนั้นนักเรียนลองหาวิธีเชื่อมโยงความชอบของนักเรียนกับการท่องจำคำศัพท์ได้เลย มันจะทำให้เราเรียนรู้มันเพลิน ๆ แบบไม่มีวันเบื่อเลยล่ะค่ะ แอบกระซิบนิดนึง เพื่อนของครูหวานบางคนเริ่มเรียนรู้จากคำหยาบก็มีจ้า ฮ่าๆๆๆ 😀
5. แวดล้อมตัวเองด้วยคำศัพท์ ต้องเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นภาษาอังกฤษ
สิ่งที่ง่ายที่สุดในการแวดล้อมตัวเองด้วยคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ได้ผ่านตาและให้ได้ใช้เป็นประจำ ก็คือการใช้อวัยวะที่ 33 ของเราหรือโทรศัพท์มือถือในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นภาษาที่ใช้ในเครื่องหรือใน Application รวมถึงถ้าได้ใช้พูดคุยเล็กน้อยกับเพื่อน ๆ ได้ก็ยิ่งดีเลยค่ะ สิ่งนี้ก็จะทำให้เราคุ้นชินกับคำศัพท์มากขึ้น เช่น จากที่เคยใช้คำว่า ตั้งค่า เราก็จะเรียนรู้ว่ามันคือ setting นั่นเองค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว รีบแว๊บไปเปลี่ยนภาษาด่วนๆ เลย เสร็จแล้วกลับมาอ่านต่อน้า
6. ฝึกซ้อมกับคู่หู จะได้รู้ว่าต้องปรับอะไร
วิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเรียนรู้เลยค่ะ เพราะมีผู้ช่วยอีกคนที่พร้อมจะเรียนรู้เป็นเพื่อนเรา แถมยังช่วยกันปรับปรุงและพัฒนาภาษาไปด้วยกัน ยิ่งถ้ามีเพื่อนหลาย ๆ คนมาร่วมแจม บรรยากาศการเรียนรู้ก็จะยิ่งสนุกสุด ๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะคะ เมื่อนักเรียนมีความมั่นใจมากขึ้นแล้ว อาจจะลองขยับไปเรียนรู้คำศัพท์ที่ระดับสูงขึ้นโดยใช้ Application พูดคุยกับชาวต่างชาติก็ได้นะคะ ไม่แน่น้า อาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เจอเพื่อนหรือแฟนชาวต่างชาติด้วยเด้อ
7. เรียนรู้สำนวนและวลี เพราะบางทีแค่คำศัพท์อาจไม่พอ
การเรียนรู้สำนวนและวลีไปพร้อมกับคำศัพท์ด้วยนั้น จะทำให้เราได้เรียนรู้ไปถึงการใช้ภาษาอย่างแท้จริงของเจ้าของภาษาทั้งในด้านของสังคมและวัฒนธรรมเลยค่ะ ดังนั้นเราจะเข้าใจความเป็นมาของภาษา จะทำให้จำไปตลอดชีวิตเป็น Long-term memory ได้เลยค่ะ เช่น เรารู้จักคำว่า dog และ cat แล้วใช่ไหมคะ แต่เมื่อเจ้าของภาษาพูดว่า It’s raining cats and dogs. มันแปลว่าฝนตกหนักมากค่ะ เห็นไหมคะว่าสำนวนหรือวลีไม่ได้แปลได้ตรงตัวเสมอไปในภาษาอังกฤษ เราต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับคำศัพท์ด้วยจ้า
นักเรียนลองเอาเทคนิคทั้ง 7 นี้ไปใช้ในการจดจำคำศัพท์ดูนะคะ ครูหวานเชื่อว่านักเรียนจะจำคำศัพท์ได้ไปตลอดชีวิต ถ้านักเรียนใช้เทคนิคนี้เป็นประจำสม่ำเสมอ ครูหวานเป็นกำลังใจให้น้า เราจะมาเก่งภาษาอังกฤษไปด้วยกันนะคะ <3
เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะคะครูหวาน